Tuesday, March 4, 2014

การสร้างสันติภาพโลก


แนวทางในการสร้างสันติภาพให้แก่โลก

เมื่อมองย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ   พบว่าประสบการณ์ของมนุษยชาติที่สำคัญ  คือ  สงคราม  และสันติภาพ  สงครามได้นำความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสมาให้แก่มนุษยชาติ  ดังนั้นนานาชาติจึงได้พยายามหาแนวทางในการักษาสันติภาพให้แก่โลกดังเช่นองค์การสันติบาตรชาติ  ที่ได้จัดตั้งขึ้นภายหลังสงครามโลกครั้งที่  1  แต่ไม่สามารถรักษาสันติภาพเนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือจากประเทศสมาชิกบางประเทศ   จึงทำให้องค์การสันติบาตรชาติยุติบทบาทลงเมื่อ  พ.ศ.1939  ต่อมาเมื่อสงครามโลกครั้งที่  2  ยุติลง  นานาชาติได้ร่วมมือกันจัดตั้งองค์การสหประชาชาติ  องค์การนี้ได้ทำหน้าที่รักษาสันติภาพต่อมาจนถึงปัจจุบัน  นอกจากองค์การนานาชาติแล้ว  ขณะเดียวกันได้มีเอกชนที่พยายามแสวงหาสันติภาพ  ดังเช่น  อัลเฟรด  โนเบล  (Alfred  Nobel)  มหาเศรษฐีชาวสวีเดนที่ได้มอบทรัพย์สินเพื่อตั้งเป็นรางวัลสันติภาพ  (international  peace  prizes)  เพื่อสนับสนุนให้บุคคลต่าง ๆทำงานด้านสันติภาพ  เช่น  มหาตมะ  คานธี  (Mahatma  Gandhi)  แม่ชีเทเรซา (Mother  Maria  Teresa)  ประธานาธิบดีเนลสัน  แมนเดลา  (Nelson  Mandela)  สำหรับผู้ได้รับรางวัลสันติภาพใน  พ.ศ.2547  ได้แก่  ชิริน  อีบาดี  (Shirin  Ebadi)  ซึ่งเป็นสตรีชาวอิหร่านที่สนับสนุนสิทธิสตรี  นอกจากนี้ยังมีนักประพันธ์ชาวรัสเซีย  ชื่อเลโอ  ตอลสตอย  (Leo  TolStoy)  ที่เขียนวรรณกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก  คือเรื่องสงครามและสันติภาพ (War  and  Peace)  ที่บรรยายเกี่ยวกับสภาพชีวิตของคนรัสเซียที่มีความทุกข์อย่างมากในระหว่างสงครามโลกครั้งที่  2   และความสงบที่เกิดขึ้นภายหลังสงคราม  นอกจากนี้ยังมีหน่วยงาน  สถาบันต่าง ๆอีกมากมาย  ที่พยายามสนับสนุนเรื่องการรักษาสันติภาพ

เหตุที่นานาชาติต่างพยายามสนับสนุนเรื่องการรักษาสันติภาพและการแสวงหาแนวทางเพื่อสร้างสันติภาพให้กับโลก  เนื่องจากผลกระทบที่เกิดจากสงครามโลกครั้งที่ และ  2   มีความแตกต่างจากสงครามที่ผ่านมา   ซึ่งสืบเนื่องจากการที่มนุษย์มีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้น  ประกอบกับความเจริญทางวิทยาศาสตร์  และเทคโนโลยีทำให้มนุษย์สามารถประดิษฐ์อาวุธที่มีประสิทธิภาพเพื่อใช้เข่นฆ่ากัน  เช่น  อาวุธปืนกล   รถถัง   เครื่องบินรบที่บินเร็วกว่าเสียง  ระเบิดปรมาณูและการทำสงครามนอกแบบที่ใช้วิธีก่อการร้าย  การใช้อาวุธเคมีชีวภาพ  เป็นต้น    ที่มีผลให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง  เพราะแต่ละฝ่ายไม่ได้จำกัดขอบเขตของสงคราม   ให้อยู่เฉพาะในพื้นที่ซึ่งมีความขัดแย้งหรือเฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้อง  เช่น  ผู้นำหรือทหาร  อีกทั้งสงครามยังส่งผลกระทบระยะยาว  โดยผู้ตกเป็นเหยื่อของสงครามมักเป็นเด็ก  คนชรา   และพลเรือนที่เป็นคนบริสุทธิ์รวมอยู่ด้วย  สิ่งที่น่าวิตกก็คือ  การทำสงครามในลักษณะนี้ได้กลายเป็นรูปแบบของสงครามหรือการก่อการร้ายในยุคปัจจุบัน  ทั้งนี้จะเห็นได้จากสงครามอิรักใน  ค.ศ. 2003  ที่นอกจากจะมีผู้สูญเสียชีวิตจากการสู้รบกันแล้ว  ยังมีการประหารชีวิตตัวประกันที่เป็นพลเรือนด้วย  สงครามที่เกิดขึ้นจึงมีผลทำให้โลกตกอยู่ในสภาวะแห่งความหวาดกลัว  ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ไม่มีผู้ใด  หรือประเทศใดสามารถแก้ปัญหาได้ตามลำพัง  ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องช่วยกันแสวงหาแนวทางในการสร้างสันติภาพให้แก่โลก  ดังนี้

1.    ความร่วมมือระหว่างประเทศและระหว่างประชาชน
ความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งในและระดับภูมิภาคและระดับโลกอาจช่วยลดความขัดแย้งไดในระดับหนึ่ง
  ดังเช่น  ความพยายามขององค์การสหประชาชาติที่พยายามแก้ไขปัญหาวิกฤติในตะวันออกกลาง  เช่น  การสู้รบระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอล  ที่เกิดขึ้นระหว่าง  ค.ศ. 1948-1973  และการฟื้นฟูและสร้างสันติภาพในประเทศอิรักเมื่อ  ค.ศ.2004  เป็นต้นมา    เป็นต้น

2.    การสร้างกระแสความคิดในการรักษาสันติภาพ
การสร้างกระแสความคิดในด้านนี้
   คือ  การเผยแพร่อุดมการณ์ในด้านสันติภาพและต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบ  ดังเช่น   ที่จังหวัดฮิโรชิมาและนางาซากิจ  ประเทศญี่ปุ่น  ซึ่งเป็นเมืองที่ถูกทิ้งระเบิดปรมาณูในสงครามโลกครั้งที่สองนั้น   ในทุก ๆปี   จะมีชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติเดินทางมาชุมนุมที่อนุสรณ์สถาน  เพื่อระลึกถึงวันที่เมืองนี้ถูกทิ้งระเบิด  การแสดงออกของคนเหล่านั้นไม่ใช่เป็นการเคียดแค้นที่เมืองถูกทิ้งระเบิด  แต่เป็นการชุมนุมเพื่อต่อต้านสงครามและสนับสนุนการรักษาสันติภาพ

3.    ส่งเสริมให้ประชาชาติยอมรับในความหลากหลาย
ความขัดแย้งระหว่างเชื่อชาติ
  ศาสนาและวัฒนธรรม  โดยพื้นฐานมักเกิดจากความคิดที่ไม่ยอมรับหรือกีดกันผู้อื่น  (exclusivism)  เพราะคิดว่าเชื้อชาติ  ศาสนาและวัฒนธรรมของตนดีที่สุด  จึงไม่ยอมรับคนที่มีเชื่อชาติ  นับถือศาสนาและมีวัฒนธรรมของคนอื่นที่แตกต่างจากตน  ซึ่งอาจก่อให้เกิดสงครามขึ้นได้ดังเช่น  สงครามคูเสดระหว่าง  ค.ศ. 1061-1291  หรือการที่อดอฟ  ฮิตเลอร์  ผู้นำเยอรมนีสั่งให้สังหารชาวยิวเพราะความเกลียดชังและหลงผิด  คิดว่าเชื่อชาติอารยันของตนมีความเจริญกว่าเชื้อชาติอื่น  แต่ถ้าได้มีการส่งเสริมให้ประชาชาติยอมรับในความหลากหลายที่รวมไปถึงเชื้อชาติ  ศาสนาและวัฒนธรรม  ย่อมก่อให้เกิดความเข้าใจอันดีต่อกัน  ทำให้สามารถร่วมมือกับผู้อื่นเพื่อรักษาสันติสุขให้แก่โลก  แนวความคิดในเรื่องการยอมรับความหลากหลายนี้  ทำได้โดยการฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ ซึ่งจะเป็นแนวทางหนึ่งในการสร้างความสุขให้กับตนเองของสังคมเพราะเราไม่สามารถจะทำให้ผู้อื่นเป็นเหมือนตัวเราได้อย่างที่เราต้องการเช่นเดียวกับที่ผู้อื่นไม่อาจทำให้เราเหมือนกับเขาดังที่เขาต้องการ  การสร้างความเข้าใจผู้อื่นที่มีความแตกต่างจากเรา  จึงเป็นแนวทางสำคัญในการแสวงหาสันติภาพ

4.    การนำคำสั่งสอนในศาสนามาปฏิบัติ
ศาสนาสำคัญในโลกล้วนสร้างบรรทัดฐานที่ทำให้สังคมมีความสงบสุข
  ดังนั้นศาสนาสำคัญของโลก  จึงเห็นคุณค่าของสันติภาพ   ดังเช่น  พระพุทธศาสนาได้สอนเรื่องการมองคนในสังคมว่าเป็นเพื่อนร่วมทุกข์มีการเกิด  แก่  เจ็บ  ตายด้วยกันทั้งสิ้น   ผู้คนจึงควรมีเมตตาและมีขันติธรรมในการอยู่ร่วมกัน
เขียนโดย DaBusVin KaSemPiMonPorN ที่ 21:13

6 comments:

  1. เราต้องเรียนรู้อีกมากกับโลกของเรา นี่เป็นส่วนหนึ่งที่เราพอจะเข้าใจ คือการครองตนเป็นกลางให้เกิดสันติภาพ (นัสชนก อัครศรี)

    ReplyDelete
  2. ศึกษา ค้นคว้า เกี่ยวกับแนวทานการสร้างสันติภาพให้แก่โลกแล้วส่งต่อแนวความคิดแก่คนรุ่นหลัง เพื่อความสงบ สุข ของ มวลมนุษย์

    ReplyDelete
  3. มนุษย์เป็นสัตว์ชั้นสูงที่มีสมองประเทืองปัญญา IQ สูงแต่ พัฒนามากกว่าEQ,MQ มีความทะเยอทะยาน ในโลกมีความบาปมากมายที่ติดตัวเรามาไม่ว่าโกหก อิจฉาริษยา โกง ไม่มีความรัก เป็นต้นถ้ามีความรัก เป็นที่ตั้งรักคนอื่นเหมือนตัวเราเองตระหนักทุกวินาทีอภัยทุกสิ่งวันละ490ครั้งเชื่อว่าpeace จะเกิดขึ้นในใจเราทุกคนและสังคมโลกพร้อมกับเอาเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ขับเคลื่อนต่อไปเพื่อมนุษยชาติ บุราภรณ์ อริยกิจจาเจริญธุรกิจ3

    ReplyDelete
  4. นิยากร รัชตญานันท์May 17, 2014 at 10:19 PM

    ในพุทธศาสนากล่าวว่าโลกมนุษย์มีแต่ทุกข์ให้เราทุกคนก้าวข้ามโลกนี้ไปอยู่อีกโลกให้ได้(นิพพาน) คือ ละบาปทั้งปวง ทำความดีให้ถึงพร้อม แต่ในเมื่อยังอยู่ด้วยกันตรงนี้ ก็ต้องอยู่กันให้ได้และหาจุดที่ทำให้เราไม่ทะเลาะและมีความสุขที่สุดค่ะ

    ReplyDelete
  5. รุจิกาญจน์ พวงเพ็ชรMay 19, 2014 at 9:17 PM

    สันติภาพโลกจะเกิดขึ้นได้ด้วยการร่วมมือกันของทุกคน ทุกเชื้อชาติ การตั้งมูลนิธิต่างๆก็คงช่วยไม่ได้มาก แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำ

    ReplyDelete
  6. เราต้องเข้าใจคนอื่น ไม่เห็นแก่ตัว เอาใจเขามาใส่ใจเรา ยึดหลักศาสนาเพราะทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี

    ReplyDelete